แบ่งปันโอกาสและพัฒนาร่วมกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน รถไฟบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรทุกแป้งมันสำปะหลัง 1,000 ตัน ออกเดินทางจากสถานี
เวียงจันทน์ใต้ บนเส้นทางรถไฟจีน-ลาว มุ่งหน้าสู่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน (ซินหัว)
ตลาดอันกว้างใหญ่ของจีนนำมาซึ่งโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับโลก ในฐานะประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก จีนให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันเป็นอันดับแรกในความร่วมมือระหว่างประเทศเสมอมา
ความร่วมมือแบบเปิดกว้างได้นำมาซึ่งผลลัพธ์อันเป็นผลดี
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 ถั่วสนของปากีสถานได้รับสิทธิยกเว้นภาษีนำเข้าเมื่อส่งออกไปยังจีน ในปี พ.ศ. 2567 มูลค่าการส่งออกถั่วสนของปากีสถานไปยังจีนสูงกว่า 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีการปลูกถั่วสนในหลายพื้นที่ของจังหวัดแคว้นไคเบอร์ ปัคตุนควา และมีการนำเข้าเครื่องจักรแปรรูปและคัดแยกถั่วสนจากจีน ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของถั่วสนให้ดียิ่งขึ้น
ในฐานะตลาดผู้บริโภคและตลาดนำเข้าที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก จีนเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกที่สำคัญสำหรับเกือบ 80 ประเทศและภูมิภาค ตลาดขนาดมหึมาของจีนกำลังเปลี่ยน “ความต้องการของจีน” ให้เป็น “โอกาสระดับโลก”
ความสำเร็จด้านการพัฒนาเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกประเทศ
ในฐานะสมาชิกของประเทศโลกใต้ (Global South) จีนมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมมือกับทุกฝ่ายเสมอมา รวมถึงประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด เพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกันและผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
ในตำบลเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในประเทศบังกลาเทศ งานหัตถกรรมปอกระเจาที่ทอโดยสตรีชนบทกว่า 2,000 คน ไม่เพียงแต่เข้าสู่ตลาดจีนในปริมาณมหาศาลเท่านั้น แต่ยังส่งออกไปยังยุโรปและสหรัฐอเมริกาผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนอีกด้วย บริษัทดาดา ซึ่งเป็นบริษัทจากบังกลาเทศ ได้เข้าร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) ติดต่อกันหลายปี โดยมียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ต่อปี บริษัทเติบโตจากธุรกิจขนาดเล็กที่มีพนักงานเพียง 10 กว่าคน กลายเป็นบริษัทท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงและมีพนักงานมากกว่า 2,000 คน
การอำนวยความสะดวกทางการค้าขยายโอกาสความร่วมมือ
ตั้งแต่การดำเนินนโยบายภาษีศูนย์ไปจนถึงการปรับปรุงช่องทางการค้า เช่น ศุลกากร โลจิสติกส์ และอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน จีนได้พัฒนาระดับการอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
หลี่ เหรินเหลียง รองศาสตราจารย์ประจำสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ประเทศไทย กล่าวว่า “จีนยังคงขยายการเปิดประเทศ เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนา และส่งเสริมการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมโลกอย่างมั่นคง” เขาสนใจเป็นพิเศษในเรื่องการปิดระบบศุลกากรเดิมเพื่อเดินหน้าเปิดเขตการค้าเสรีเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการของเขตท่าเรือการค้าเสรีไห่หนานในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ “‘ภาษีเป็นศูนย์ อัตราภาษีต่ำ และระบบภาษีแบบง่าย’ จะช่วยให้บริษัทไทยส่งออกผลไม้เขตร้อน สินค้าเกษตร และสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังจีนได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการค้า นอกจากนี้ บริษัทไทยยังสามารถจัดตั้งบริษัทในเขตท่าเรือการค้าเสรีไห่หนาน โดยใช้ประโยชน์จากนโยบายและความได้เปรียบทางการตลาดของไห่หนานเพื่อดำเนินธุรกิจได้มากขึ้น”