นักวิจัยชาวจีนประสบความสำเร็จในการทดลองทางคลินิกเกี่ยวกับระบบเชื่อมต่อสมองกับคอมพิวเตอร์

ผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตครึ่งตัวสามารถบังคับรถเข็นอัจฉริยะไปทั่วละแวกบ้านได้ด้วยความคิดเพียงอย่างเดียว และสั่งการสุนัขหุ่นยนต์ให้ไปรับอาหารที่สั่งมาส่งได้ ฉากเหล่านี้เพิ่งเกิดขึ้นระหว่างการทดลองทางคลินิกเกี่ยวกับการเชื่อมต่อสมองกับคอมพิวเตอร์ที่ดำเนินการโดยทีมงานจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน

สิ่งนี้ได้ทำลายขอบเขตเดิม ๆ ของการฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยเปลี่ยนการควบคุมของสมองจากเคอร์เซอร์สองมิติบนหน้าจอ ไปสู่การโต้ตอบแบบสามมิติเต็มรูปแบบกับโลกทางกายภาพ

อินเทอร์เฟซระหว่างสมองกับคอมพิวเตอร์ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างช่องทางการสื่อสารโดยตรงระหว่างสมองและอุปกรณ์ภายนอก กลุ่มวิจัยทั่วโลกได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในห้องปฏิบัติการแล้ว เช่น "การพิมพ์ด้วยความคิด" และการควบคุมแขนหุ่นยนต์ ความท้าทายที่สำคัญคือการทำให้ระบบเหล่านั้นมีความน่าเชื่อถือมากพอที่จะผสานเข้ากับชีวิตประจำวันของผู้ป่วยได้อย่างกลมกลืน

ผู้ป่วยรายนี้เป็นอัมพาตทั้งตัวในปี 2565 เนื่องจากการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง และได้รับการผ่าตัดฝังระบบเชื่อมต่อสมองกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์สมองและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ภายใต้สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีนในเดือนมิถุนายน 2568 ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังการฝึกฝน เขาสามารถควบคุมเคอร์เซอร์ของคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตได้อย่างแม่นยำ

นักวิจัยได้ใช้ระบบเชื่อมต่อสมองกับคอมพิวเตอร์แบบไร้สายที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมรถเข็นอัจฉริยะและสุนัขหุ่นยนต์ได้อย่างเสถียรโดยใช้สัญญาณประสาท ทำให้สามารถเคลื่อนที่และหยิบจับวัตถุได้อย่างอิสระในสภาพแวดล้อมจริง

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการวิจัยของจีนในสาขานี้กำลังเปลี่ยนจากการมุ่งเน้นเพียงแค่การฟื้นฟูปฏิสัมพันธ์ขั้นพื้นฐาน ไปสู่การขยายขอบเขตการใช้ชีวิตจริงของผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต

นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังได้ผสมผสานกลยุทธ์การถอดรหัสสองแบบที่แตกต่างกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อกลั่นกรองคำสั่งที่มีความหมายจากกิจกรรมทางประสาทที่สับสน และเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมสมองโดยรวมได้มากกว่า 15%

ยิ่งไปกว่านั้น นักวิจัยยังลดเวลาแฝงของระบบตั้งแต่การรับสัญญาณประสาทไปจนถึงการประมวลผลคำสั่งให้ต่ำกว่า 100 มิลลิวินาที ซึ่งต่ำกว่าเวลาตอบสนองของร่างกายเอง ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกควบคุมได้อย่างลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ